บอร์ด ความรัก,ให้ทำไงละพ่อแม่โดนไล่ลงจากบขสเพราะลูกร้องเนี่ยะผมสงสารคนขับรถและเด็กรถมากกว่า ประสบการณ์ช.. โพสท์โดย ลูกสาวอบตสมาชิกหมายเลข 1409959 โพสต์เรื่องบนรถ บขส. พ่อแม่โดนไล่ลงจากบขส.เพราะลูกร้องเนี่ยะ ผมสงสารคนขับรถและเด็กรถมากกว่าความคิดเห็นที่ 11 เด็กไม่หยุดร้อง พ่อแม่ไม่มีความสามารถจะควบคุมลูก จนคนขับรถคนที่สองไม่ได้นอนตามที่ควรจะนอน พอเปลี่ยนกะเกิดหลับในตายทั้งคัน จะให้จอดรอจนเด็กหยุดร้อง แล้วผู้โดยสารคนอื่นจะทำยังไง ก็ต้องรอไปด้วย กี่นาที กี่ชั่วโมง พ่อแม่เด็กจะรับผิดชอบยังไงการเป็นคนจนไม่ผิด เอาเด็กขึ้นรถทัวร์ไม่ผิดแต่...ผิดที่ไม่เตรียมพร้อมเลี้ยงมากับมือ รู้สิว่าลูกเป็นยังไง ถ้ารู้ว่าต้องเดินทางไกล สันนิษฐานไว้เลยว่าเด็กต้องร้อง ต้องหาทางรับมือ ไม่ใช่พอเด็กร้องแล้วอ้างควบคุมเด็กไม่ได้ พ่อแม่รู้จักลูกดีที่สุด ทำให้ลูกหยุดร้องยังไง ของเล่น นม ขนม อาหาร อะไรที่ทำได้ต้องพร้อม เด็กคนเล็กสองขวบ เริ่มฟังคำสั่งพ่อแม่รู้เรื่อง และเสี้ยงดูกันมาสองปีแล้ว ยังไม่รู้อีกเหรอว่าลูกชอบหรือไม่ชอบอะไรไม่อย่างนั้นก็ตายสิ อ้างเด็กตลอด เด็กเป็นเด็กไม่รู้เรื่อง พ่อแม่จะปล่อนเลยตามเลยไม่มีความผิดรึจะเอาชีวิตคนอื่นมาเสี่ยงกับความไม่พร้อมของตัวเองได้ยังไง------------------------------------------------------------------------------ความคิดเห็นที่ 5 1. เด็กร้องไม่มีความผิดตามกฏหมายข้อใด ๆ 2. การไล่เด็กและครอบครัวลงจากรถได้แค่ความสะใจพร้อมความผิดทางวินัย3. การด่าทอต่อว่าหรือไล่ไปหาอะไรอุดปาก อาจจะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท-การที่เด็กร้องแล้วไม่ทำอะไรเลย เสียมารยาททางสังคมควรตำหนิหรือแจ้งให้ทราบ แต่ควรเลือกวิธีการเพราะมันตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่าไม่ผิดกฏหมายและศีลธรรมใดๆ ถ้าลงไม้ลงมือผิดเต็มประตูนะครับ อ้างว่ารำคาญเสียงร้องแล้วต่อยแม่เด็กหรือตบเด็กเนี่ย คุกเลย -การที่เด็กร้องแล้วพยายามแต่หยุดไม่ได้เช่นเด็กป่วย ถ้าคุณเป็นใส้ติ่งอักเสบร้องโอดโอย เด็กก็ย่อมแสดงออกมาด้วยการร้องให้จ้าแบบหยุดไม่ได้เช่นกัน การเดินทางบางครั้งเกิดเพราะความจำเป็น ผมเคยเจอครอบครัวที่พาเด็กเล็กป่วยหนักร้องให้หนักมากบนเครื่องเพื่อไปผ่าตัดในกรุงเทพ แต่ไม่มีใครบอกเหตุผลกับเราแบบนี้ทุกครั้ง ผมเคยเจอยิ่งกว่านั้นนะ เด็กราว 3 ขวบนั่งรถขึ้นเขา แรงดันน่าจะทำให้ต้องร้องแน่ บนรถมีครูอนุบาลกับนักศึกษาใจดีเล่นกับเด็กทำให้เด็กหัวเราะและปรับแรงดันอัตโนมัติ เด็กไม่ร้องตลอดทางแต่เล่นและหัวเราะ ก็มีคนออกมาต่อว่าหนวกหูนะครับ จึงแจ้งไปว่าถ้าเปลี่ยนเป็นร้องให้จะน่ารำคาญกว่าเสียงเด็กร่าเริงนะครับ และระหว่างทางสองคนที่ออกมาต่อว่าเด็ก ก็เล่นไพ่อะไรกันไม่รู้แล้วเฮดังลั่นจนคนขับหันมาเคาะกระจก ก็เป็นความสะใจเล็ก ๆ ของเพื่อนร่วมทางในรถบางทีผู้ใหญ่ก็เกินไปบางทีเด็กก็เกินไปบางทีพ่อแม่ก็เกินไปบางทีลูกไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคนบางทีเพื่อนร่วมทางก็ไม่ได้น่ารักสำหรับเด็กบางทีพ่อแม่ก็ไม่น่ารักสามประโยคนี้แหละที่เป็นความจริง ไม่ใช่ประโยคเดียว ------------------------------------------------------------------------------ ความคิดเห็นที่ 6 ไม่มีพ่อ-แม่ ปกติคนไหนหรอกครับ ที่เห็นลูกร้องไห้เป็นชั่วโมงแล้วนั่งเฉยๆไม่ทำอะไรเลยเคสนี้ก็เหมือนกัน ผมก็เชื่อว่าพ่อ แม่ เขาคงทั้งโอ๋ ทั้งปลอบแล้ว แต่เด็กไม่หยุดร้องต่อให้ดุ หรือตีให้ตาย ก็ไม่ช่วยอะไรหรอกครับเผลอร้องหนักกว่าเดิมอีก เด็กอะครับ..บทเขาจะงอแง โลกก็ฉุดไม่อยู่ครับฟังข่าวบอกเป็นการเดินทางไกลครั้งแรกของน้องคนเล็ก 2 ขวบด้วย ก็พอมีเหตุผลเด็กคงไม่สบายตัวกับเบาะแคบๆส่วนพนักงาน ผมไม่เห็นใจนะครับ เพราะขาดวิจารณญาณในการตัดสินใจหลายอย่างทั้งข้ามขั้นตอนระเบียบปฎิบัติของ บขส. เองขาดวิจารญาณในการตัดสินใจ การปล่อยผู้โดยสารลงกลางทาง แถมเป็นกลางดึกอีกด้วย แถมยังมีเด็กเล็กๆพ่วงอีก 2 คนถ้าคิดรอบคอบเรื่องแบบนี้ไม่ควรทำอย่างยิ่ง จะมาอ้างว่าปล่อยลงหน้าปั๊มไม่เปลี่ยว ฟังไม่ขึ้นครับ ------------------------------------------------------------------------------ ความคิดเห็นที่ 2 สงสารผู้โดยสายท่านอื่นจัง ต้องมาทนฟังเสียงแหกปากของลูกชาวบ้าน เกือบๆชั่วโมงคนบนรถคงสุดทนจริงๆ  ให้กำลังใจคนขับรถและกระเป๋ารถเมล์ค่ะ พวกคุณคือฮีโร่ในใจเดี๊ยนลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน  ยังเป็นประโยคที่ใช้ได้เสมอสุนัขชอบเห่า เจ้าของยังต้องซื้อตะกร้อครอบปากไม่ให้รบกวนชาวบ้านนะคะ พ่อแม่บางท่านที่มีลูกชอบโวยวายแหกปากร้องในพื้นที่สาธารณะน่าจะลองดูบ้าง ไม่เสียหายอะไร